ในปัจจุบันจำนวนประชากรของโลกได้เพิ่มมากกว่าเดิมขึ้นหลายเท่าตัว ขณะนี้ตัวเลขแตะที่ 70,000 ล้านคน เมื่อมีจำนวนประชากรมากก็ย่อมต้องการที่จะใช้ทรัพยากรมาก ทำให้เกิดการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และเกิดปัญหาขยะตามมา ขยะที่สำคัญเป็นตัวการของปัญหาคือ พลาสติก เป็นสิ่งที่ย่อยสลายได้ยาก และทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ในชีวิตประจำวันของเรานั้นเกี่ยวข้องกับพลาสติกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชีวิตประจำวันของเรานั้นมีความจำเป็นต้องบริโภคน้ำ เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายกว่า 80% เป็นสาเหตุของการเกิดการใช้ขวดพลาสติกจำนวนมาก
จากสถิติ ปริมาณการใช้ขวดพลาสติกในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2550 พบว่ามีการใช้ขวด PE (ขาวขุ่น) ปีละประมาณ 2,880 ล้านใบ ขวด PET (ขวดใส) ปีละประมาณ 975 ล้านใบ รวมแล้วคนไทยใช้ขวดพลาสติกเหล่านี้ถึงปีละ 3,855 ล้านใบ ซึ่งปริมาณที่ใช้เพิ่มขึ้นราวๆ 1,300 ล้านใบ นับจากปี พ.ศ. 2544(ที่มา : คำนวณจากมูลค่าตลาดน้ำดื่มจากนิตยสาร Brand Age เดือนสิงหาคม 2544 และนิตยสาร Positioning เดือนพฤษภาคม 2550) ซึ่งคาดว่าในอนาคตจำนวนตัวเลขของการใช้ขวดพลาสติกอาจจะพุ่งสูงเป็นเท่าตัว
เราจึงอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้ว่า แล้วขวดน้ำพลาสติกที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้ ปลายทางของมันจะไปอยู่ที่ไหน? ในเมื่ออัตราการย่อยสลายของขวดพลาสติกใช้เวลานานกว่า 450 ปีต่อ 1ใบ ลองคิดดูสิว่า ใน1 วัน ขวดพลาสติกจะถูกผลิตขึ้นกี่ใบ ถ้าหากถูกทิ้งให้เป็นขยะหรือกำจัดโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ความร้ายกาจของมันจะมากขนาดไหน
ขอบเขตพื้นที่การศึกษา
พื้นที่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยบูรพา ตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี
ประเด็นการศึกษา
- ประเภทของขวดพลาสติก
- ผลกระทบจากการใช้ขวดพลาสติก
- แนวทางการแก้ไข
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจากขวดพลาสติก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
เพื่อทราบผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก และแนวทางการแก้ไขปัญหาจากขวดพลาสติก
วิธีการศึกษา
1. ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของขวดพลาสติก
2. ศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก
3. ลงสำรวจพื้นที่ศึกษาเพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้ขวดพลาสติก
4. เสนอแนวทางการแก้ไข
5. สรุปผลการศึกษา
จากสถิติ ปริมาณการใช้ขวดพลาสติกในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2550 พบว่ามีการใช้ขวด PE (ขาวขุ่น) ปีละประมาณ 2,880 ล้านใบ ขวด PET (ขวดใส) ปีละประมาณ 975 ล้านใบ รวมแล้วคนไทยใช้ขวดพลาสติกเหล่านี้ถึงปีละ 3,855 ล้านใบ ซึ่งปริมาณที่ใช้เพิ่มขึ้นราวๆ 1,300 ล้านใบ นับจากปี พ.ศ. 2544(ที่มา : คำนวณจากมูลค่าตลาดน้ำดื่มจากนิตยสาร Brand Age เดือนสิงหาคม 2544 และนิตยสาร Positioning เดือนพฤษภาคม 2550) ซึ่งคาดว่าในอนาคตจำนวนตัวเลขของการใช้ขวดพลาสติกอาจจะพุ่งสูงเป็นเท่าตัว
เราจึงอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้ว่า แล้วขวดน้ำพลาสติกที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้ ปลายทางของมันจะไปอยู่ที่ไหน? ในเมื่ออัตราการย่อยสลายของขวดพลาสติกใช้เวลานานกว่า 450 ปีต่อ 1ใบ ลองคิดดูสิว่า ใน1 วัน ขวดพลาสติกจะถูกผลิตขึ้นกี่ใบ ถ้าหากถูกทิ้งให้เป็นขยะหรือกำจัดโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ความร้ายกาจของมันจะมากขนาดไหน
ขอบเขตพื้นที่การศึกษา
พื้นที่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยบูรพา ตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี
ประเด็นการศึกษา
- ประเภทของขวดพลาสติก
- ผลกระทบจากการใช้ขวดพลาสติก
- แนวทางการแก้ไข
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจากขวดพลาสติก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
เพื่อทราบผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก และแนวทางการแก้ไขปัญหาจากขวดพลาสติก
วิธีการศึกษา
1. ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของขวดพลาสติก
2. ศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ขวดพลาสติก
3. ลงสำรวจพื้นที่ศึกษาเพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้ขวดพลาสติก
4. เสนอแนวทางการแก้ไข
5. สรุปผลการศึกษา
รู้หรือไม่ ขวดพลาสติกมีกี่ประเภท
ขวดพลาสติกที่ใช้ในปัจจุบันมีทั้งหมด7ประเภทและแต่ละประเภทมีคุณสมบุติที่แตกต่างกันดังนี้
1.PET/PETP Polyethylene terephthalate
เป็นโพลิเอสเตอร์เชิงเส้นตรงที่อิ่มตัวที่สำคัญที่สุดถูกใช้งานในรูปของเส้นใยสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ ในรูปของขวดเพ็ท (โดยวิธีเป่ายืด = Stretch-Blow Moulding) ขวดเพ็ทนี้จะใสเหนียว ไม่แตกง่ายๆ ทนต่อความดันก๊าซได้สูง ทั้งยังผ่าน FDA (คณะ กรรมการอาหารและยา) เรียบร้อยแล้ว ใช้บรรจุน้ำอัดลม , บรรจุอาหาร , สุรา , ยา , เครื่องสำอาง
2.HDPE High density polyethylene
เป็น PE ที่มีความหนาแน่นตั้งแต่ .940 g/cm 3 ขึ้นไป ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขวด, แผงบรรจุยา,ภาชนะบรรจุเครื่องสำอาง ฯลฯ
3.PVC หรือ Polyvinylchloride
เป็นเทอร์โมพลาสติกที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางมีคุณสมบัติที่สำคัญคือเมื่อติดไฟจะดับได้ด้วยตัวเอง
4. LDPE Low density polyethylene
เป็น PE ที่มีความหนาแน่น .910-.925 g/cm3 ใช้ทำถุงเย็น, ถุงซิป, ฟิล์มด้านการเกษตรท่อน้ำหยด, เป็นฉนวนหุ้มสายไฟ และสายเคเบิ้ล, ของใช้ในบ้าน, ของเด็กเล่น, สายน้ำเกลือ, ขวดน้ำเกลือ ฯลฯ
5.PP Polypropylene
เป็นพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติกที่เบาที่สุด มีสมบัติเชิงกลดีมาก เหนียว ทนต่อแรงดึง แรงกระแทกและทรงตัวดี มีจุดหลอมตัวที่ 165 C ไอน้ำและออกซิเจนซึมผ่านได้ต่ำ เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีมาก
6.กล่องโฟม หรือโพลีสไตรีน (Polystyrene)
7.พลาสติกที่ทำจากโพลีคาร์บอเนต หรือ Lexan พบในขวด/กระติกน้ำพลาสติกยี่ห้อดัง ราคาแพงที่นำเข้ามา
รู้หรือไม่ ขวดพลาสติกมีพิษร้ายขนาดไหน
ขวดพลาสติกเมื่อใช้แล้ว คงไม่ต้องสงสัยขวดพลาสติกเหล่านี้เมื่อใช้มักจะถูกทอดทิ้ง ตามบริเวณต่างๆ อาทิ เช่น ถังขยะ ใต้ต้นไม้ หรือแม้แต่ใน บริเวณชายหาดหรือแม่น้ำลำคลอง หรือสะดวกที่ไหนก็ทิ้งที่นั่น ตามแต่ความมักง่ายของแต่ละคน จนทำให้เกิดเป็นผลกระทบต่อมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศต่างๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีดังนี้
1.ทำให้เกิดขยะเป็นจำนวนมาก
2.ขบวนการผลิตและขบวนการทำลายขวดพลาสติกก่อให้เกิดก๊าซพิษ ที่ส่งผลต่อมนุษย์และส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ เกิดภาวะโลกร้อน!!
3. พลาสติกไม่สามารถย่อยสลายไปได้เองตามธรรมชาติและใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายนาน
4.การทิ้งขวดพลาสติกไม่ถูกที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศนั้นๆ เช่น นก ปลา สัตว์ป่าต่างๆ
5. ในการทิ้งขวดพลาสติกไม่ถูกที่จะทำให้ภาพลักษณ์ในบริเวณนั้นไม่สวยงาม
การปรับตัวรับมือขยะจากขวดพลาสติก
ในหลายๆประเทศจากทั่วโลกได้เริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากขวดพลาสติก และภัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น ประเทศบราซิล ที่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากขวดพลาสติก ได้มีการนำขวดพลาสติกมารีไซเคิล เป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์อื่น นั่นก็คือ ไม้กวาด นอกจากจะช่วยลดขยะที่เกิดจากขวดแล้วยังเป็นการส่งเสริมเพื่อสร้างรายได้ รวมทั้งช่วยลดการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในกระบวนการผลิตไม้กวาดแบบดั้งเดิม ในประเทศไทยเริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากขวดพลาสติก แต่ขบวนการในการแก้ปัญหานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ถึงแม้จะมีการรณรงค์ มีบรรจุภัณฑ์ที่สังเคราะห์จากธรรมชาติขึ้นมาทดแทน แต่ก็ไม่สามารถลดผลกระทบที่เกิดจากขวดพลาสติกได้ เพราะมันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุและไม่มีการปลูกฝังในตัวบุคคล
ผลกระทบที่เกิดสามารถแก้ไขและรับมือได้คือ
1.นำขวดพลาสติกไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยขบวนการผลิตนั้นต้องส่งผลเสียต่อโลกน้อยที่สุด อย่างเช่น การทำไม้กวาดในประเทศบราซิล หรือของตกแต่งต่างๆ จำพวก โมบาย กระถางต้นไม้ โคมไฟ เก้าอี้ ฯลฯ
2. การ Reuse หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ แทนที่จะทิ้งขวดพลาสติกไปหลังจากที่ใช้เสร็จ ก็นำควรกลับมาบรรจุน้ำดื่มตามแหล่งบริการน้ำดื่มต่างๆ ควรใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหากใช้ในระเวลาที่นานไปอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย(หากไม่ใช้แล้วก็นำกลับไป รีไซเคิลตามข้อที่1 เพื่อเป็นการลดจำนวนขยะจากขวดพลาสติก)
จัดทำโดย
นางสาวสุมารินทร์ แท่นโพธิ์ 52020303
นายอธิภัทร ผาติสุวัณณ 52020306
นางสาวกัญญา บัวเผื่อนหอม 52021038
นายนันธ์วัฒน์ ธรรมสามิสร 52021062
นางสาวปริศนา รุ่งแสง 52021070
คณะภูมิสาสนเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา
ดีค่ะ ไม่ต้องหาข้อมูลให้เมื่อยมาก
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ
ตอบลบ